1. ไฟฝ้าเพดาน ( Cornice lighting / Cove Lighting )
ขอเริ่มกับไฟแต่งบ้านแบบแรก
ที่บอกเลยว่าปัจจุบันมีแทบทุกหลัง เพราะมีแล้วทำให้บ้านดูโปร่ง
และสว่างขึ้น ไม่อึดอัดแม้มีหน้าต่างน้อย รวมถึงทำให้ผนังห้องดูสูงขึ้น
ส่วนใหญ่นิยมติดตั้งตามฝ้าเพดานที่มีการปาดฝ้าไว้
เพื่อให้แสงส่องกระทบด้านบน
ส่วนสีสันของแสงสามารถเลือกปรับใช้ได้ตามความชอบเลยค่ะ
2. ไฟราง ( Track Lighting )
Photo By : http://www.euamodecoracao.com
แบบที่ 2 ก็ฮิตไม่แพ้กัน นั้นก็คือไฟราง Spotlight เพราะที่เป็นไฟแต่งบ้านที่สามารถนำไปส่องสว่างยังจุดที่ต้องการ เช่นผนังที่ต้องการโชว์กรอบรูป หรือประติมากรรม ที่สำคัญไฟ Spotlight มักจะติดตั้งอยู่บนราง จึงสามารถเคลื่อนตัวเป็นแนวยาวได้ตามต้องการ หรือจะยึดติดกับเพดานเลยก็ได้ตามความชอบค่ะ
ส่วนเพื่อนๆคนไหนแต่งบ้านแนว Loft Style – ลอฟท์ สไตล์ ก็สามารถนำไฟแนวนี้มาตกแต่งได้
เพียงแค่เลือกเป็นชุดไฟและอุปกรณ์โทนสีดำทั้งหมดแค่นี้ก็เท่ได้
หรืออยากตกแต่งด้วยไฟสไตล์ Loft แบบอื่นๆก็สามารถตามไปดูเพิ่มเติมได้ที่ รวมหลอดไฟ Style Loft สุดฮิต! มีติดบ้านแล้วเท่
3. ไฟผนัง ( Luminous wall panels )
Photo By : https://www.pinterest.com
ตามมาต่อกันด้วยแบบที่
3 นั้นก็คือไฟซ่อนในลักษณะเป็นกล่องไฟ แบบปิด ส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่หลังผนัง
พร้อมทำหน้าที่เป็นผนังด้วยไปในตัว สามารถเล่นตามลูกเล่นของผนังได้
จะปรับเป็นรูปอะไรก็สามารถใส่ไปตามรูปแบบนั้นๆได้เลย
แถมข้อดียังช่วยเรื่อง
Space ภายในห้องดูกว้าง มีมิติ แถมส่งผลต่ออารมณ์ผู้อยู่
เช่นถ้าทำไว้ในห้องนอนก็จะดูเร้าอารมณ์ปลุกความรู้สึกที่ดีต่อคู่รักอีกด้วย
พวกเรา Infinity Design ผ้าม่าน ขอแนะนำให้รีบทำเลยค่ะ ใครช่วงนี้สามีไม่ชอบกลับบ้าน เผื่อช่วยเสริมให้สามีนอนที่บ้านมากขึ้น
4. ไฟฝ้าเพดาน ( Luminous panels )
Photo By : https://archilux.ir
มากี้ผ่านงานไฟที่ผนังมาแล้ว
ก็มาต่อด้วยงานฝ้ากันเลย แบบนี้เป็นไฟซ่อนในลักษณะเป็นกล่องไฟแบบปิด
พร้อมทำหน้าที่เป็นเพดานด้วยในตัว นิยมจัดทำตาม สำนักงาน
พื้นที่อเนกประสงค์ บริษัทขนาดใหญ่ ห้องผู้บริหาร
โรงแรมหรือห้างสรรพสินค้าเป็นต้น เพราะได้เรื่องความหรูหราโอ่อ่า ดูดี
แถมยังทำให้พื้นที่นั้นๆ โล่งกว้างสว่างสดใสเป็นที่สุด
5. ไฟใต้บันได ( Stairs light )
ตามมาด้วยแบบที่
6 ลักษณะแสงไฟจะส่องกระทบลงพื้น
และไม่จำเป็นต้องมีปีกยื่นออกมาสำหรับบังตัวหลอดไฟ
เนื่องจากเป็นการติดตั้งที่ระดับต่ำกว่าสายตามาก เหมาะใช้สำหรับส่องทางเดิน
หรือขั้นบันได ทำให้บันไดดูโดดเด่นและเดินสะดวกเหมาะสำหรับแต่งบ้าน
หรือโรงแรม เป็นต้น
6. ไฟใต้ราวบันได ( Railings / Architectural Details )
Photo By : https://www.pinterest.com
บางคนอาจไม่ชอบติดใต้บันได
ก็อาจขยับขึ้นมาติดตั้ง ใต้มือจับราวบันไดแทนได้
ลักษณะการให้แสงจะใกล้เคียงการติดตั้งในแบบที่ผ่านมา
ใครชอบแบบไหนหรือพื้นที่อำนวยแบบไหนก็สามารถเลือกตามแบบนั้นๆได้
7. ไฟในชั้นวางของ ( Under Cabinet / Shelf )
Photo By : http://xiaoguotu.yihaojiaju.com
แบบที่
8 บอกเลยว่าติดเพื่อความสวยงามและเพื่อการใช้งานด้วย
เพราะถ้าติดตรงตู้โชว์ก็จะเน้นโชว์ของและทำให้วัตถุนั้นโดดเด่นขึ้น
แต่บางคนอาจติดไว้ที่ชั้นหนังสือข้อดีคือทำให้มองเห็นเล่มที่ต้องการง่ายขึ้น
โดยเฉพาะห้องผู้บริหารหรือห้องประชุม ติดแล้วดูดีแน่นอน
8. ไฟติดผนัง ( Bracket Lighting )
Photo By : https://www.pinterest.com
สำหรับไฟแบบที่
8 เป็นไฟที่มีลักษณะเหมือนการติดไฟที่ฝ้าเพดาน แต่ลักษณะการส่อง จะใช้ได้ 2
แบบ คือส่องลงด้านล่างและส่องสว่างขึ้นผนังด้านบนด้วย (ทิศทางลง + ขึ้น)
ซึ่งไฟแบบนี้จะเหมาะกับการติดที่โถงทางเดิน และห้องครัว เป็นต้น
9. ไฟส่องผ้าม่าน วอลล์ Curtain Wall Washing / Valance Lighting
Photo By : https://wallpaperscraft.com
ส่วนไฟตกแต่งแบบสุดท้ายจะเป็นไฟที่ติดตั้งแบบให้แสงสาดส่องเข้าหาผนัง ผ้าม่าน (Curtain) หรือพื้นระนาบแนวตั้ง
โดยเน้นให้แสงส่องลงมาจากทางด้านบน และปล่อยให้มืดดำในส่วนด้านล่าง
เหมือนเป็นการเล่นไฮไลท์และโชว์จุดผ้าม่านๆนั้นให้เด่นขึ้นนั้นเอง
การใช้ไฟแนวนี้จะเหมาะสำหรับบ้านที่แต่งแนว Retro Style – เรโทร สไตล์ หรือ Luxury Style – ลักซูรี่ สไตล์ นั้นเอง ถ้ากำลังรู้สึกว่าบ้านเราแต่งแล้วแต่เหมือนขาดอะไรบางอย่างบอกเลยว่าไฟช่วยคุณได้ค่ะ
ติดตามสาระข่าวสารการตกแต่งบ้านได้ที่นี่ > Delicious! Idea
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น