Activities for GREEN
นับเป็นครั้งแรกของพวกเราที่ได้มีโอกาสมาที่ ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน ตำบลแหลมฟ้าผ่า
อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทของเรามากนัก แต่เรากลับไม่รู้จักเลย
นั่นก็เป็นเพราะพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในแผนที่ของประเทศไทยนั่นเอง
จากที่อดีตที่มีพื้นที่เยอะๆ ปัจจุบันเหลือนิดเดียว เหมือนเป็นเกาะๆ หนึ่ง
หากใครจะมาต้องนั่งเรือมาเท่านั้น และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเรา…
เมื่อเราขับรถมาถึงท่าเรือบ้านป้าลี่
จะมีเรือหางยาวมารอรับเราไปยังท่าเรือต่างๆ โดยปลายทางของเราคือ
ท่าเรือวัดขุนสมุทรจีน สำหรับค่าโดยสารเหมาลำใหญ่ไป-กลับอยู่ที่ 1,400 บาท
ส่วนลำเล็กคนแรกอยู่ที่ 100 บาท คนต่อไป 10 บาท ใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20
นาทีก็ถึง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดวงด้วยนะคะ
หากไปจังหวะที่น้ำลดก็อดไปเลย เพราะเรือไม่สามารถแล่นไปได้ค่ะ
โดยระหว่างทางเราจะได้ชมทัศนียภาพที่อุดมสมบูรณ์ของที่นี่
ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์น้ำนานาชนิด รวมถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชน
ดังคุณลุงในภาพที่ออกเรือไปเก็บกุ้ง หอย ปู ปลา ไปประกอบอาหารที่บ้าน
ชีวิตง่ายๆ ที่ไม่ต้องเสียตังค์เลยสักบาท
เมื่อถึงท่าเรือวัดขุนสมุทรจีน
สถานที่ต่อไปของเราคือ บ้านผู้ใหญ่สมร
โดยระยะทางจากท่าเรือไปยังบ้านผู้ใหญ่สมรก็ประมาณ 2.5 กิโลเมตร
สามารถนั่งพี่วินมอเตอร์ไซต์ไปได้คนละ 10 บาท เท่านั้น
หรือจะเดินเท้าก็ได้เช่นกัน
ในระหว่างทางเดินเราจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม
เมื่อเรามาถึงบ้านผู้ใหญ่สมร
เราก็ได้มารับฟังการบรรยายประวัติความเป็นมาเป็นไปของวัดขุนสมุทรจีนกันก่อน
จากผู้ใหญ่สมร เข่งสมุทร ผู้อาวุโสคนเก่าคนแก่ของคนในชุมชน โดยหัวข้อหลักๆ
ได้แก่ พื้นที่ที่หายไปของวัดขุนสมุทรจีน, วิถีการใช้ชีวิตของคนในชุมชน,
และสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
สำหรับแผ่นดินของชุมชนวัดขุนสมุทรจีนแต่เดิมเป็นชุมชนที่ใหญ่
มีที่ดินทำมาหากินเป็นบริเวณกว้าง
แต่ปัจจุบันถูกน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งจนเหลือนิดเดียว
โดยชาวบ้านบางครอบครัวเคยย้ายที่อยู่ขยับเข้ามาไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง
เพราะถูกน้ำกัดเซาะชายฝั่งไปหมด เพื่อนๆ
สามารถดูตามได้จากแผนที่ด้านล่างนี้
หลังจากฟังการบรรยายเสร็จแล้ว เราก็เดินทางมากราบไหว้ของพร ที่ ศาลเจ้าพ่อหนุ่มน้อยลอยชาย โดยชาวบ้านเล่ากันว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก
ขออะไรได้อย่างนั้นโดยเฉพาะเรื่องการเรียน
ในตำนานเล่าว่าชาวบ้านที่มีอาชีพประมง ออกไปหาปลาตามปกติ
และได้พบกับตุ๊กตาเด็กผู้ชายมัดแกละ จึงโยนทิ้งไป
แต่เมื่อออกเรือไปหาปลาอีกกี่ครั้ง ก็มักจะพบกับตุ๊กตาเด็กผู้ชายอยู่เสมอ
จึงได้นำขึ้นฝั่งมาเพื่อกราบไหว้บูชา
จากนั้นเราก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมลุยโคลนไปปลูกป่าชายเลน โดยมี คุณสุวรรณ บัวพลาย วิทยากรที่จะสอนเราปลูกป่าชายเลนอย่างถูกวิธี
และพาเราไปยังที่บริเวณปลูก สำหรับหรับต้นที่เรานำมาปลูกนั่นคือ ต้นโกงกาง
วิธีการปลูกจะแตกต่างทจากที่เราทำในครั้งที่ผ่านมา
(ดูกิจกรรมที่ผ่านมาได้ที่นี่ ปลูกป่าชายเลน)
ครั้งนี้เมื่อเราได้รับฝักโกงกางมาแล้ว
ก็เพียงแค่นำไปปัก แต่ต้องปักให้ลึกพอสมควร เพื่อไม่ให้พัดไปกับน้ำ
ในเวลาที่น้ำขึ้นหรือซัดเข้ามา ในการปลูกลักษณะนี้เป็นการเลียนแบบธรรมชาติ
เมื่อฝักตกลงมาก็จะปักไปกับดินทันที
ในระยะเวลาไม่นาน
ฝักโกงกางจำนวนร้อยกว่าฝัก ก็ถูกปักดินไปหมดเรียบร้อยไม่มีเหลือ
เพียงช่วยกันคนละไม้ละมือแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว เพราะพวกเรามีทีมเดียว ทีม Infinity Design
กิจกรรมของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ
หลังจากล้างเนื้อล้างตัวเสร็จแล้ว
ก็เดินทางไปไหว้พระที่วัดขุนสมุทรจีนกันต่อ
ในระหว่างทางเดินจะเจอกับระฆังแขวนตลอดทางเดิน
เชื่อกันว่าจะเป็นการเสริมสิริมงคล, เป็นการถวายพุทธบูชา
และสัญลักษณ์การกลับมาเยือนอีกครั้ง
เมื่อเดินจนไปสุดทางก็จะถึง วัดขุนสมุทรจีน วัดแห่งนี้ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ
น้ำท่วม รอบตัวโบสถ์ยังมีร่องรอยของน้ำทะเลท่วมอยู่
ซึ่งทางวัดไม่ได้ปรับแต่งอะไร ยังคงสภาพเดิมอยู่ตลอดเวลา
เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้มาเที่ยวชมและศึกษาความเป็นมา
การเข้าไปกราบสักการะจะต้องคลานเข่าเข้าไป
เพราะพื้นดินทรุดไม่สามารถเดินเข้า-ออกไปได้ ไม่งั้นหัวโนแน่ๆ
ในช่วงบ่ายเราได้กลับมากรุงเทพฯ เพื่อแข่งกีฬาสีเก็บคะแนนชิงถ้วยรางวัลรวมในต้นปีหน้า โดยกีฬาที่จะแข่งในวันนี้คือ เปตอง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ทีมชาย, ทีมหญิง และทีมผสม สำหรับทีมที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ สีส้ม
สำหรับแนวคิดของกิจกรรม
Infinity Design For Green ในปี 2017 นี้
พวกเราได้เดินตามคำสอนเรื่องการปลูกป่าของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9
กับประโยคที่ว่า #ปลูกต้นไม้ในใจคน .... โดยเพื่อนๆ สามารถอ่านคำสอนนี้เพิ่มเติมได้ที่ 👉 bit.ly/Concept-For-Green-2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น